การทำงานของ แองจ์ พอสเตโคกลู ในฤดูกาลที่สองกับ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ เต็มไปด้วยความท้าทาย ผลงานในพรีเมียร์ลีกแย่ลงอย่างหนัก ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากแฟนบอล โดยเฉพาะความพ่ายแพ้ต่อ เลสเตอร์ ซิตี้ ทีมที่แพ้มา 7 นัดติดต่อกันก่อนเจอสเปอร์ส การตกไปอยู่ในอันดับที่ 15 และชนะเพียงหนึ่งนัดจาก 11 เกมหลังสุด ส่งผลให้อนาคตของพอสเตโคกลูกลายเป็นคำถามใหญ่ แต่ในขณะเดียวกัน เสียงตำหนิกลับพุ่งเป้าไปที่ แดเนียล เลวี่ ประธานสโมสร มากกว่าตัวผู้จัดการทีม
แม้สเปอร์สจะลงทุนในตลาดซื้อขายนักเตะถึง 214 ล้านปอนด์ในฤดูกาลนี้ แต่ครึ่งหนึ่งของงบประมาณนั้นมาจากการขาย แฮร์รี เคน ให้กับบาเยิร์น มิวนิค ทำให้เกิดเสียงวิจารณ์ว่า การเสริมทัพไม่ได้ตอบโจทย์ความต้องการของทีม นอกจากนี้ สเปอร์สยังไม่สามารถแข่งขันค่าเหนื่อยกับทีมอื่นในลอนดอนได้ เช่นกรณีที่พลาดตัวนักเตะเป้าหมายในเดือนมกราคม ขณะที่ พอสเตโคกลู ยังคงยืนกรานในสไตล์การเล่นของเขาโดยไม่ปรับตัวแม้ในยามที่นักเตะตัวหลักหลายคนบาดเจ็บ
การขาด มิคกี้ ฟาน เดอ เวน, คริสเตียน โรเมโร และ เดสตินี อูโดกี ส่งผลกระทบอย่างใหญ่หลวงต่อแผนการเล่นของทีม ทำให้ 10 อันดับ เว็บพนันออนไลน์ ไม่ผ่านเอเย่นต์ออกราคาที่ พอสเตโคกลู โดนปลดสูงขึ้น การเสียผู้เล่นในแนวรับหลักทำให้เกมรับของสเปอร์สเปราะบาง และการยืนยันใช้แท็กติกเดิมของพอสเตโคกลูทำให้ทีมขาดความยืดหยุ่นในเกมที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง แม้ผู้จัดการทีมจะเน้นว่าเขายังคงเชื่อมั่นในทีมของเขา แต่ผลงานในสนามทำให้เกิดคำถามว่าความเชื่อนี้จะเพียงพอหรือไม่
แฟนบอลบางส่วนเริ่มแสดงความไม่พอใจต่อ แดเนียล เลวี่ เจ้าของทีมไก่เดือยทอง โดยมองว่าการบริหารของเขาเน้นไปที่การพัฒนาธุรกิจมากกว่าความสำเร็จในสนาม แม้สโมสรจะมีสนามแข่งขันและศูนย์ฝึกซ้อมที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป แต่ขาดการลงทุนในนักเตะและการเสริมความแข็งแกร่งให้กับทีมในระยะยาว ทำให้แฟนบอลเริ่มตั้งคำถามถึงอนาคตของสโมสรในยุคของเลวี่