หลังจากข่าวการต่อสัญญาของ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ได้รับการยืนยัน แฟนบอลลิเวอร์พูลต่างพากันยินดีอย่างมาก โดยผลงานอันโดดเด่นของเขาในฤดูกาลนี้เป็นเครื่องยืนยันถึงคุณค่าที่สโมสรควรเก็บเขาไว้ ด้วยการมีส่วนร่วมถึง 45 ประตูในพรีเมียร์ลีก ทั้งยิงเอง 27 ลูกและจ่ายอีก 18 แอสซิสต์ ถือเป็นสถิติใหม่ในฤดูกาล 38 นัด เหนือกว่านักเตะระดับตำนานอย่าง อองรี และฮาแลนด์ โดยในเกมกับเวสต์แฮมล่าสุด ซาลาห์ก็ยังโชว์เหนือจัดแอสซิสต์ให้หลุยส์ ดิอาซยิงขึ้นนำ ซึ่งสะท้อนถึงความสำคัญของเขาต่อแผนการคว้าแชมป์ของทีมภายใต้การคุมทีมของ อาร์เน่ สลอต
การต่อสัญญาของซาลาห์ไม่เพียงแค่ทำให้แฟน ๆ พอใจ แต่ยังเป็นการส่งสัญญาณถึงเสถียรภาพภายในทีม หลังจากก่อนหน้านี้มีข่าวว่าเขาอาจย้ายไปร่วมทีมในซาอุดีอาระเบีย ด้วยค่าเหนื่อยที่สูงกว่าหลายเท่า การเลือกอยู่กับลิเวอร์พูลต่อจึงเป็นทั้งชัยชนะของสโมสรและความภักดีที่ยังคงอยู่ในวงการฟุตบอลยุคใหม่ ซาลาห์เองก็แสดงความยินดีที่ได้อยู่ต่อ พร้อมกล่าวว่าอยากคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลนี้ต่อหน้าแฟนบอล ซึ่งแตกต่างจากการคว้าแชมป์ในฤดูกาลที่โควิดระบาดไม่มีผู้ชมในสนาม
แม้ผลงานของซาลาห์จะเป็นที่พูดถึงมากที่สุด แต่การคว้าชัยในเกมกับเวสต์แฮมยังต้องขอบคุณ อลิสซง เบ็คเกอร์ ที่โชว์เซฟหลายจังหวะสำคัญ รวมถึงลูกโหม่งชัยชนะในนาทีที่ 89 จาก เวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค กัปตันทีมผู้ลงเล่นนัดที่ 100 ในนามกัปตันพอดี ถือเป็นอีกหนึ่งคนที่มีบทบาทสำคัญต่อทีมในช่วงโค้งสุดท้ายของฤดูกาล และได้รับเสียงเชียร์ไม่แพ้กัน โดยเฉพาะในหมู่แฟนบอลที่เดิมพันซาลาห์จะต่อสัญญากับ 10 อันดับ เว็บพนันออนไลน์ ไม่ผ่านเอเย่นต์ ซึ่งมักพูดถึงฟอร์มการเล่นของเขาอยู่เสมอ
อนาคตของเวอร์จิล ฟาน ไดจ์ค ยังคงเป็นประเด็นหลักถัดไป หลังจากซาลาห์ตัดสินใจอยู่ต่อ โดยเจ้าตัวได้ให้สัมภาษณ์หลังเกมว่า “ทุกคนรู้ว่าผมรักสโมสรนี้แค่ไหน รอดูสัปดาห์หน้าดีกว่า” ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นสัญญาณบวกเกี่ยวกับการต่อสัญญาใหม่ ด้านอาร์เน่ สลอต พยายามเบี่ยงประเด็นว่าเขาหมายถึงเกมนัดถัดไปกับเลสเตอร์เท่านั้น แต่แฟนบอลก็คาดหวังว่าการประกาศอย่างเป็นทางการจะมาในไม่ช้า